วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เลือกลิปสติกยังไง ไม่ให้การแต่งหน้าสะดุด

เลือกลิปสติกยังไง ไม่ให้การแต่งหน้าสะดุด





การเลือกเนื้อลิปสติกเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการแต่งหน้า เพราะหากเลือกลิปสติกไม่เหมาะแล้วการแต่งหน้าออกจากบ้านของคุณในครั้งนั้นอาจจะสะดุดจนหมดความมั่นใจไปเลยก็ได้ จริงมั้ยล่ะ งั้นเราไปทำความรู้จักกับเนื้อลิปสติกแต่ละแบบกัน

เนื้อสเตนหรือทินท์


ลิปสติกประเภทนี้ไม่ค่อยมาในรูปลักษณ์แท่งหมุนเหมือนลิปสติกเนื้อครีมและเนื้อเชียร์ด้วยความที่เนื้อ Stain ซึ่งมีลักษณะกึ่งน้ำผสมสี (หรือจะว่าคล้ายกับสีเมจิกก็ได้) เมื่อทาลงบนเรียวปาก เนื้อสีจะซึมไปตามผิวชั้นนอกของริมฝีปาก ทำให้สีติดทนนานและเพราะลิปประเภทนี้มีสีให้เลือกไม่หลากหลายนัก ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางสีแดงสดและสีโทนเข้มซะมากกว่า ถ้าคุณใช้ร่วมกับลิปกลอสใส หรือกลอสสีอ่อน ๆ จะเลิศมาก

เนื้อแมตต์


ถ้าต้องการลุคในแบบเรียบนุ่ม แม้ไม่เป็นประกายเฉิดฉาย แต่ดูสวยเฉี่ยวแบบหักแน่น แน่นอนว่าคุณต้องหยิบลิปสติกเนื้อแมตต์นี้ขึ้นมาระบายบนริมฝีปาก เพราะเนื้อแมตต์นั้นนอกจากจะปราศจากความมันวาวโดยสิ้นเชิง แล้วยังให้สีด้านอย่างมีสไตล์ด้วย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นว่าความมันวาวบนริมฝีปาก จะดูมีเสน่ห์ตรงไหน เลือกใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์ไม่ผิดหวังแน่

เนื้อครีม


เมื่อใดที่อยากรู้สึกคล่องแคล่วกระฉับกระเฉงและเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วยสีสันบนใบหน้าแล้วล่ะก็ หยิบลิปสติกเนื้อครีมขึ้นมาใช้ได้เลย เพราะลิปเนื้อครีมนั้นมีเนื้อเนียนนุ่มสนิทแนบไปกับเรียวปาก ทั้งยังให้สีได้เด่นชัดชนิดที่ว่าเลือกใช้สีแดงก็ออกแดงเต็มที่ ใช้ชมพูก็เห็นสีชมพูหวานจับใจ ลิปสติกเนื้อครีมนี้ นอกจากใช้ทาปากแล้ว ยังปรับใช้เป็นครีมบลัชออนช่วยเพิ่มสีให้พวงแก้มคุณได้ด้วยนะ

ลิปไลเนอร์


เหมาะมากกับวันที่คุณต้อการความเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว ไม่เว้นแม้แต่ขอบปากที่จะต้องลงเส้นให้ดูคมชัดราวกับตีกรอบล้อมไว้ เพื่อไม่ให้ลิปสติกที่ทาเลอะออกนอกขอบปากได้ ลิปไลเนอร์ที่ดีต้องมีเนื้อนุ่มกำลังดี ไม่นิ่มจนเขียนไม่เป็นเส้น แต่ก็ไม่แข็งจนขูดขอบปากเป็นรอยแดงนั่นเอง

เนื้อบางใส


อยากได้ริมฝีปากที่มองดูแล้วบางใสและมันวาว (Sheer) แต่ไม่ถึงขนาดมันเยิ้มต้องเลือกลิปสติกเนื้อบางใสมาเติมแต้มริมฝีปาก เพราะถ้าเทียบกับเนื้อครีมแล้ว เนื้อเชียร์จะสีเข้มชัดประมาณ 60-70% อีกประมาณ 30% ที่เหลือจะเป็นความมันใสริมฝีปากจึงดูอวบอิ่ม ชุ่มชื่น แวววาวเป็นประกาย

ลิปกลอส


สาวใสวัยรุ่นมักจะชมชอบและพึ่งพาลิปกลอส เพิ่มความงามเป็นประจำ ด้วยเนื้อที่ใสไม่ค่อยออกสี แต่ให้ความชุ่มฉ่ำบนริมฝีปากได้ดี คุณจึงเป็นสาวใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีลิปกลอสรสชาติอร่อย กลิ่นหอมหวานด้วยแล้ว คุณจะเพลินทาไปชิมไปอย่างสนุกสนานเชียวล่ะ

ลิปติดทนนาน


เหมาะกับใครก็ตามที่ชีวิตวุ่นวายตลอดเวลาตารางเวลาแน่นเอี๊ยดตลอดทั้งวัน จนไม่มีเวลานั่งกังวลว่ายังมีลิปสติกเหลืออยู่บนเรียวปากรึเปล่า ลิปสติกแบบ Long-lasting นี้จะให้สีที่ชัดเจนเหมือนลิปสติกเนื้อครีม แต่จะมีความแห้งยิ่งกว่าเพื่อให้เนื้อลิปติดบนริมฝีปากของคุณได้นานยิ่งขึ้นนั่นเอง

บลัชครีมกับเนื้อฝุ่น แบบไหนใช้ดีกว่ากัน ?

บลัชครีมกับเนื้อฝุ่น แบบไหนใช้ดีกว่ากัน ?





บลัชเนื้อฝุ่น 


คือบลัชแบบที่ใช้กันทั่วไป มีข้อดีที่สามารถปัดได้ง่าย ควบคุมน้ำหนักได้ดี จะปัดอ่อนก็ลงเบา ๆ ถ้าอยากให้เข้มขึ้นก็ปัดเพิ่มได้ง่าย ๆ จึงเรียกได้ว่าเหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้า ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ตั้งแต่ผิวแห้งไปจนถึงผิวมัน และยังมีสีสันให้เลือกหลากหลายกว่ามากหากเทียบกับบลัชเนื้อครีม

บลัชเนื้อครีม


มีข้อดีตรงที่ติดผิวนานกว่า แถมยังดูกลมกลืนไปกับผิวดี เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำให้ผิวดูฉ่ำ แต่ก็ต้องอาศัยความชำนาญในการทา หากหนักมือไปสีจะเข้มเกินและลบออกยาก ใช้เวลาในการทานานกว่า และอาจไม่เหมาะกับสาวผิวมันเท่าใดนัก เพราะใช้แล้วสามารถทำให้ผิวดูมันขึ้นได้

เทคนิคแต่งหน้าเพื่อปกปิดขอบตาดำคล้ำ

เทคนิคแต่งหน้าเพื่อปกปิดขอบตาดำคล้ำ



บำรุงผิวรอบดวงตาให้สดใส ชุ่มชื่นก่อนแต่งหน้า


ด้วยการใช้มาส์กรอบดวงตาแปะบำรุงเป็นประจำก่อนนอนอยู่เสมอ หรืออาจใช้ของที่มีอยู่ในบ้าน ที่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า อย่าง ใช้ช้อนชาแช่เย็น,ก้อนน้ำแข็งประคบลูบเบา ๆ ก่อนแต่งหน้าก็ได้ 

เลือกรองพื้นและแป้งที่มีการปกปิดดี


รองพื้นและแป้งที่สาว ๆ เลือกใช้ก็ถือเป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยลดระดับความเข้มของสีผิวหรือตำหนิบริเวณใบหน้าได้ ดังนั้นสาว ๆ จึงควรเลือกรองพื้นและแป้งฝุ่นที่มีคุณสมบัติปกปิดและกระจายแสงได้ดีเพื่อช่วยให้รอบตาดูสว่างสดใสขึ้น หรืออาจผสมเบสสีโทนเหลือง - ชมพูลงในรองพื้นสักเล็กน้อยแล้วทารอบดวงตาให้ทั่วก็ได้

กำราบรอยดำให้อยู่หมัดด้วยคอนซีลเลอร์


ปัจจุบันมีคอนซีลเลอร์หลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งแบบครีม แบบแท่ง ฯลฯ โดยเลือกโทนสีคอนซีลเลอร์ให้สว่างกว่าผิว 1 เบอร์ (ระวังอย่าเลือกสีอ่อนและเข้มมากจนเกินไปเพราะจะยิ่งทำให้ขอบตาดูเห็นเด่นชัดมากกว่าเดิม) แล้วใช้แปรงแต้มรอบดวงตาบนและล่างอย่างละ 4 จุด จากนั้นให้ใช้นิ้วเกลี่ยเบา ๆ ให้ทั่ว แล้วใช้แปรงทาเกลี่ยให้เรียบเนียนเท่ากันอีกครั้งเพื่อช่วยให้ปกปิดได้ดีและเนี๊ยบมากยิ่งขึ้น

อายแชโดว์โทนสว่างช่วยสร้างความสดใสได้


เมื่อปกปิดรอยคล้ำรอบดวงตาเสร็จเรียบร้อย ทีนี้ก็ต้องมาเติมเสน่ห์ด้วยสีสันจากอายแชโดว์กันสักหน่อย ก่อนอื่นให้สาว ๆ แต้มอายไพรเมอร์เพื่อช่วยให้อายแชโดว์ติดทนนานมากยิ่งขึ้น จากนั้นให้เลือกอายแชโดว์ในโทนสีอ่อน ๆ อย่าง ทอง เงิน ส้ม ชมพูทาให้ทั่วเปลือกตา หรืออาจใช้อายแชโดว์แบบดินสอสีขาวประกายมุกเขียนขอบตาล่างให้ดวงตาที่ดำคล้ำดูสดใสและสว่างขึ้นได้ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอายไลเนอร์และอายแชโดว์สีดำ และน้ำตาล เพราะจะทำให้ตาหม่นหมอง

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

5 สิ่งนี้ผิวต้องการทุกวัน…อย่าได้ขาด

5 สิ่งนี้ผิวต้องการทุกวัน…อย่าได้ขาด




นอกจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแล้ว นี่คือสิ่งที่ผิวของคุณขาดไม่ได้ในแต่ละวัน

1. สารต่อต้านอนุมูลอิสระ: ที่มีอยู่ในวิตาวินเอ ซี และอีซึ่งจะช่วยทำให้ผิวของคุณดูเปล่งปลั่งออกมาจากข้างใน วิตามินพวกนี้มีอยู่มากในผักและผลไม้

2. การนวด: การนวดจะช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนในผิวซึ่งคุณสามารถทำได้ในขณะทาครีม โดยใช้นิ้วมือถูเบาๆ เป็นแนววงกลมวันละแค่หนึ่งนาทีก็เพียงพอแล้ว

3. ความชุ่มชื้น: ซึ่งหาได้จากครีม น้ำมัน หรือโลชั่น โดยจะช่วยเติมความชุ่มชื้นหลังล้างหน้า และปกป้องผิวจากปัจจัยต่างๆ ด้วย

4. น้ำ: ถึงแม้การดื่มน้ำจะไม่ได้ช่วยให้ผิวอิ่มเอิบขึ้นมาโดยตรงแต่ถ้าคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวันก็จะส่งผลให้ผิวดูหม่นหมองได้

5. ครีมกันแดด: คุณจำเป็นต้องปกป้องผิวเป็นประจำทุกวันโดยทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 เป็นอย่างน้อยในบริเวณที่ไม่มีอะไรปกปิด ไม่ว่าวันนั้นฝนจะตกหรือแดดจะออกหรือไม่

อย.เล็งประกาศห้ามใช้สีย้อมผม 126 รายการ

อย.เล็งประกาศห้ามใช้สีย้อมผม 126 รายการ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก องค์การอาหารและยา

อย.เล็งออกประกาศห้ามใช้สีย้อมผม 126 รายการ ภายในปีนี้ หลังยุโรปพบเสี่ยงเกิดเนื้อร้ายในกระเพาะปัสสาวะ หวังสกัดผู้ผลิตในประเทศ นำเข้า และส่งออก
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า การคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพถือเป็นเรื่องสำคัญ โดย อย.ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการผลิตเครื่องสำอางได้คุณภาพเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนอย่างรอบด้าน ทั้งการพัฒนากฎหมาย ยกระดับสถานประกอบการ เช่น การประกาศห้ามใช้สีย้อมผมในผลิตภัณฑ์ย้อมผม ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น สหภาพยุโรปได้ออกประกาศห้ามใช้สีย้อมผมเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหลายรายการ เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดเนื้อร้ายในกระเพาะปัสสาวะโดยคณะกรรมการวิชาการด้านการคุ้มครองผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ SCCP จึงมีการทบทวนการใช้สารใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องกันทั้งการนำเข้าและการขออนุญาตผลิตในอนาคต
สำหรับมาตรการที่ อย.ดำเนินการนี้ ถือว่าสอดคล้องกับการปรับกฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง และการจัดทำบทบัญญัติเครื่องสำอางอาเซียน ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องควบคุมกำกับดูแลให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่วางจำหน่ายในท้องตลาดต้องเป็นไปตามข้อตกลง ทั้งในเรื่องรายการสารที่ใช้เป็นส่วนผสม ฉลากผลิตภัณฑ์ การจัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์ และการประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเมื่อวางจำหน่ายในประเทศ ส่งออก และการนำเข้าจากต่างประเทศด้วย


ทายนิสัยจากการอ่านหนังสือ

ทายนิสัยจากการอ่านหนังสือ






เปิดผ่านๆอ่านคร่าวๆ 

เป็นคนที่มีอุปนิสัยที่เป็นคนวู่วามใจร้อน เวลาจะทำงานใดๆ มักจะไม่สนใจนรายละเอียดถี่ถ้วนนัก แต่จะสนใจเรื่องที่เป็นหลักใหญ่ๆ มากกว่า ไม่ชอบการวางแผนล่วงหน้าจะทำทุกอย่างเมื่ออยากทำ และทำตามใจตัวเองจึงมักมีเรื่องให้ผิดหวังอยู่เรื่อย จากความไม่รอบคอบของตัวเอง


เปิดอ่านแต่เรื่องที่สนใจ 

เป็นคนที่มีความเป็นเด็กอยู่ในตัวมากไม่ค่อยนึกถึงจิตใจคนอื่น แต่ะทำไปเพราะความไม่รู้เรื่องมากกว่า แต่อีกด้านนั้น เป็นคนใจดี ใจกว้าง ชอบช่วยเหลือคนอื่นแต่มักจะไม่มีคนกล้าทำความรู้จักสักเท่าไรเพราะเป็นคนที่ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์สักเท่าไร

อ่านทุกเรื่องอ่านทุกหน้า 

ลักษณะนิสับยเป็นคนใจกว้างสามารถยอมรับความคิดใหม่ๆ ได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นความคิดเด็กหรือผู้ใหญ่ เป็นคนใฝ่รู้ เมื่อสนใจเรื่องใดก็จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรู้จักกับเรื่องนั้นอย่างจริงจัง มักได้รับการยอมรับจากผู้คนรอบข้าง

ชอบออกเสียงเวลาอ่านหนังสือ 

ลักษณะนิสัยคนประเภทนี้ คือ เป็นคนจริงใจ ซื่อสัตย์ต่อทุกคนไม่ใช่คนที่มีพิษกับใคร เป็นคนเปิดเผย ไว้ใจได้ รักสงบ ชอบชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ใช่คนที่มีภูมิอะไรมากนักแต่ก็มีความน่านับถืออยู่ในตัวเอง

ชอบขีดเส้นข้อความในหนังสือ 

บ่งบอกถึงอุปนิสิย เป็นคนช่างจด ช่างจำและค่อนข้างยึดมั่นถือมั่นอีกด้วย สิ่งไหนที่เป็นของตนก็มักจะไม่ยอมให้ครมาครอบครองง่ายๆ นอกจากนี้ยังเป็นคนทำงานได้ดีเพราะเวลาจะทำอะไรจะลงมือทำอย่างจริงจังเสมอ ไม่ชอบเสียเวลากับกับเรื่องไร้สาระ


พับขอบหนังสือ 

เป็นคนค่อนข้างมีนิสัยไม่ค่อยเรียบร้อยนัก แต่จะเป้นคนที่ทำอะไรแล้วก็จะหมกมุ่น และทำจริงจัง จนกระทั่งทำสำเร็จ จะไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างนักแลดูคล้ายกับคนเห็นแก่ตัวแต่เพราะว่าเป็นคนพูดไม่เก่งมากกว่า และถ้ามีคนมาขอความช่วยเหลือก็จะเอื้อเฟื้อเป็นอย่างดี

4 ขั้นตอน คิ้วสวย…ปิ๊ง

4 ขั้นตอน คิ้วสวย…ปิ๊ง




ขั้นตอนที่ 1 

เตรียมกระจกไว้ในมือให้พร้อม จากนั้นก็หาที่เหมาะ ๆ ที่มีแสงสว่างตามธรรมชาติ พู่กันเขียนคิ้วด้ามยาว (แบบปลาย เฉียงหรือปลายตรงก็ได้) วางด้ามพู่กันพาดจาก ปีกจมูกขึ้นไปถึงหัวตาและหัวคิ้ว ใช้แหนบถอนขนคิ้วที่อยู่นอกแนวด้ามพู่กันออกซะ ร็อกแนะนำ หาที่สว่างๆ


ขั้นตอนที่ 2 

วางด้ามพู่กันพาดจากปีกจมูก ขึ้นไปถึงหางตา นี่คือจุดที่คิ้วควรเริ่มเฉียงขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องถอนคิ้วในบริเวณนี้ออกแค่มาร์กจุดเอาไว้สำหรับเขียนคิ้วทีหลัง

ขั้นตอนที่ 3

เสร็จแล้วก็เลื่อนด้ามพู่กันให้พาดจากปีกจมูกผ่านจุดกึ่งกลางของลูกตาดำ นี่คือจุดโค้งสูงสุดของคิ้ว มาร์กจุดนี้เอาไว้ด้วย


ขั้นตอนที่ 4

วางด้ามแปรงแนวนอน พาดจากหัวคิ้วไปถึงหางคิ้ว แนวนี้ควรเป็นเส้นตรง ฉะนั้น จึงอาจต้องถอนขนคิ้วรก ๆ นอกแนว ออกไป โดยให้หางคิ้วดูเรียวลงเล็กน้อย เสร็จก็ใช้ดินสอเขียนคิ้วเติมแต่งให้คมชัดยิ่งขึ้น

วิธีทำให้คางดูเรียวลง


วิธีทำให้คางดูเรียวลง




วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้คางดูเรียวลงคือ การแรเงาบริเวณคางบางๆ ด้วยบรอนเซอร์ ที่มีสีเข้มกว่าสีผิวจริงหนึ่งเฉด
อย่าใช้อะไรที่มีสีเข้มกว่านั้น เพราะอาจจะทำให้คางดูเป็นจุดเด่นมากขึ้นได้ วิธีทาบรอนเซอร์ให้ดูแนบเนียนที่สุดก็คือ ใช้แปรงปัดแก้มขนาดใหญ่ลูบไล้ลงบนบรอนเซอร์ แล้วเคาะแปรงเพื่อขจัดบรอนเซอร์ส่วนเกินออก จากนั้น ลูบไล้ลงในบริเวณคาง โดยเกลี่ยลงไปจนถึงคอ และปัดขึ้นไปจนถึงแนวเส้นผม วิธีนี้จะช่วยให้เกิดภาพลวงตาที่ดูเหมือนเป็นเงาลางๆ บนใบหน้า ทำให้คางดูเรียวและเป็นที่สังเกตได้น้อยลง

ค่า SPF กับ PA+++ คือ

ค่า SPF กับ PA+++ คือ


อาจมีสาวๆ หลายท่านเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดดมาใช้กัน พอหยิบๆ ผลิตภัณฑ์ขึ้นมาดู หลายๆ คนอาจงงว่า เอ๊ะ! SPF คืออะไร แล้ว PA+++ ล่ะ มีความหายว่าอย่างไร?? แล้วตัวเลขที่ต่อท้าย SPF ไม่ว่าจะเป็น15 30 50 ล่ะ กำลังบอกข้อมูลอะไรกับเราอยู่ จะเดินไปถามพนักงานก็เขิน สรุปก็เลยไม่รู้อยู่ดี... งั้นวันนี้เรามารู้จักค่าเหล่านี้กัน



ครีมกันแดด ทำงานอย่างไร

       ส่วนผสมในครีมกันแดดจะทำหน้าที่ในการปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วยการดูดซับรังสี ,ป้องกันแสง UV ไม่ให้ผ่านเข้าไปถึงชั้นผิว หรือทำให้รังสี UV แตกกระจายออกไปเพื่อไม่ให้เข้าทำร้ายผิวโดยตรง สำหรับคำแนะนำในการใช้ครีมกันแดด ครีมกันแดด ที่ดีที่สุด คือครีมกันแดดที่สามารถที่จะป้องกันแสง UV ได้เพียงพอ(ซึ่งอาจจะขึ้นกับความแรงของแสง) เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ควรทาครีมกันแดดก่อนออกไปสู่ที่มีแสงแดด 30 นาที(ส่วนใหญ่มักจะพบคำแนะนำนี้ตามขวดของครีมกันแดดกันนะ)




แล้ว SPF คืออะไร

       ค่า SPF หรือ Sun Protection Factor เป็นตัวระบุระดับการปกป้องผิวจากรังสี UVB หรือ ก็คือจำนวนเท่าของเวลาที่ผิวทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลตนี้ได้หลังจากทาครีมกันแดดแล้ว ซึ่งโดยปกติผิวของเราจะรับมือกับแสงแดดโดยปราศจากครีมกันแดดได้ประมาณ 20-30 นาที ถ้าครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์นั้นระบุไว้ว่า SPF30 ก็จะหมายถึง เราสามารถอยู่กลางแดดได้ประมาณ 30×30 = 900 นาที หรือ 15 ชั่วโมง โดยที่ผิวไม่ไหม้แดง แต่กระนั้นการคำนวณอาจคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากครีมกันแดดที่ทาบนผิวอาจลบเลือนไปเมื่อเหงื่อออก โดนน้ำ หรือทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดควรทาครีมซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ประสิทธิภาพในการป้องกันแดดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง


ทำไม SPF สูง ก็ไม่ได้ดีกว่าเสมอไป
       โดยทั่วไป ครีมกันแดด SPF ประมาณ 15 ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนทั่วๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในแถบเอเชียอย่างเรา แต่สำหรับคนที่ผิวไวต่อแดด หรือถูกผิวถูแผดเผาให้หมองคล้ำได้ง่ายนั้น ใช้ SPF 30 ก็ถือว่าเพียงพอที่จะปกป้องผิวได้แล้ว แต่ถ้าอยากใช้ที่มีค่า SPF เยอะกว่านี้ ก็ไม่ว่ากัน


ตัวอย่าง ค่า SPF และ % การปกป้องแสง UV


ค่า SPF เท่ากับ 2 จะดูดซับ UVB ได้ 50% 
ค่า SPF เท่ากับ 4 จะดูดซับ UVB ได้ 75% 
ค่า SPF เท่ากับ 8 จะดูดซับ UVB ได้ 87.5% 
ค่า SPF เท่ากับ 15 จะดูดซับ UVB ได้ 93.3% 
ค่า SPF เท่ากับ 20 จะดูดซับ UVB ได้ 95% 
ค่า SPF เท่ากับ 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7% 
ค่า SPF เท่ากับ 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8% 
ค่า SPF เท่ากับ 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%

จะเห็นว่า ค่า SPF หลังจาก 30 แล้ว ค่าที่จะป้องกัน แสง UV ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่ากับ SPF ที่เพิ่มขึ้น เมื่อผู้บริโภคตระหนักถึง ความสำคัญของครีมกันแดดแล้ว ก็จะคิดว่า ถ้าหากค่า SPF สูงๆ ย่อมที่จะป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าแน่นอน เราจึงเห็นครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 100 ขายกันอยู่ เพื่อเป็นจุดขาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดูตลกมากๆ

ค่า SPF สูงๆ นั้น ไม่ได้หมายความว่า จะปกป้องแสดงแดดได้ดีไปกว่า ค่า SPF ที่ต่ำกว่า ในความเป็นจริงแล้ว ค่า SPF สูงๆ นั้นจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย และยังเป็นไปไปได้ว่าอาจจะมีผลข้างเคียงที่อาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้เช่นอาจ จะเกิดผดผื่นคันได้ นอกจากนี้ยังอาจจะทำให้สีผิวของเราไม่สม่ำเสมอ เกิดรอยด่างขึ้นได้ และยังอาจจะทำให้เสื้อผ้าเป็นคราบสีเหลืองติดเสื้อผ้าอีกด้วย



PA คืออะไร

       ครีมกันแดดใหม่ๆ ที่วางขายกันในตลาดมักประกอบไปด้วย UVA Filter และค่าที่วัดการป้องกันรังสี UVA เรียกว่า PA 

PA ย่อมาจากคำว่า Protection Grade of UVA ในขณะนี้ยังไม่มีหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐานในการวัดค่าการดูดซึมของรังสี UVA ดังนั้นจึงถือเอาคำว่า PA เป็นหน่วยวัดรังสี UVA อย่างไม่เป็นทางการ


ค่า PA นั้นจะมี 3 ระดับคือ


PA+       หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA
PA++     หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูง
PA+++   หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูงสุด

คงเข้าใจกันแล้วว่า SPF กับ PA+++ คืออะไร จะเห็นได้ว่าสัญลักษณ์เหล่านี้มีความสำคัญมากในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด เพราะทำให้เรารู้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีประสิทธิภาพในการป้องกันUVA และ UVB ได้มากเท่าใด ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นระบุไว้แค่ค่า SPFอย่างเดียว หรือค่า PA อย่างเดียว ก็หมายความว่า ผลิตภัณฑ์นั้นไม่สามารถปกป้องผิวจากทั้ง 2 รังสีได้พร้อมๆ กัน นั่นก็คือ ป้องกันได้แค่รังสีชนิดเดียวเท่านั้น ทางที่ดี ไหนๆ ก็จะยอมลงทุนเสียเงินเพื่อปกป้องผิวของเราแล้ว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการระบุทั้งสองค่าไปเลยดีกว่า เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดที่จะช่วยปกป้องผิวสวยๆของเราจากแสงแดด





วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2013 ญาดา เทพนม คว้ามงกุฎ miss grand thailand 2013

มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2013 ญาดา เทพนม คว้ามงกุฎ miss grand thailand 2013


ญาดา เทพนม Miss Grand Thailand 2013



ญาดา เทพนม Miss Grand Thailand 2013


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Miss Grand Thailand 2013

มิสแกรนด์ไทยแลนด์2013 (miss grand thailand 2013) ญาดา เทพนม นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ คว้ามงกุฎ มิสแกรนด์ไทยแลนด์2013 พร้อม พ่วงด้วยตำแหน่ง Miss Grand Rising Star

          เมื่อวานนี้ (7 พฤษภาคม) เวลา 20.00 น. ที่ห้องบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ มีการประกวดรอบตัดสิน Miss Grand Thailand 2013 ชิงมงกุฎมูลค่า 1.5 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท โดย Miss Grand Thailand คนแรกของประเทศไทยจะเป็นตัวแทนเข้าประกวดเวทีระดับโลก Miss Grand International 2013 ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย ช่วงเดือนตุลาคมนี้

          โดยภายในงาน สาวงามทั้ง 37 คน ได้เดินอวดโฉมพร้อมแนะนำตัวในสุดราตรีสั้นสีทอง ก่อนปรากฏกายด้วยชุดราตรียาวคละสี จากนั้นจึงมีการประกาศรางวัลพิเศษ ดังนี้


รางวัลนางงามผิวสวย โดยสก๊อต คอลลาเจน โอร่า ได้แก่ น.ส.ธัญพร ศรีเสน หรือ น้องกุ้ง หมายเลข 8 อายุ 25 ปี

รางวัลมิสบิวตี้ เพอร์เฟ็กต์ บาย วุฒิศักดิ์ ได้แก่ น.ส.ภัณฑิรา เชิดในเมือง หรือ โปสเตอร์ หมายเลข 33 อายุ 20 ปี


รางวัลมิสเบสต์ เมคอัพ บาย มิสทิน ได้แก่ น.ส.นภัสวรรณ โชติการ  หรือ สมายล์ หมายเลข 25 อายุ 21 ปี


 รางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ได้แก่ น.ส.ชนุชตรา สุขสันต์ หรือ นาย หมายเลข 21 อายุ 21 ปี


รางวัลป๊อปปูลาร์โหวต ได้แก่ น.ส.คลอร่า สิทธิเจริญยศ หรือ เรน หมายเลข 14 อายุ 20 ปี


รางวัล Miss Globe International Thailand ได้แก่ น.ส.โสภาพรรณ วิฬุหมาศ หรือ เชอร์รี่ หมายเลข 22 อายุ 24 ปี


 รางวัล Miss Intercontinental Thailand ได้แก่ น.ส.กีรติกา สว่างแจ้ง หรือ สายเอี๊ยม หมายเลข 12 อายุ 18 ปี


รางวัล Miss Supranational Thailand ได้แก่ น.ส.ธัญพร ศรีเสน  หรือ น้องกุ้ง หมายเลข 8 อายุ 25 ปี


รางวัล Miss Grand Rising Star ได้แก่ น.ส.ญาดา เทพนม หรือ น้องอ๋อ หมายเลข 34 อายุ 21 ปี


กระทั่งมาถึงช่วงประกาศผลตัดสิน ปรากฏว่า สาวงามผู้คว้ามงกุฎ Miss Grand Thailand 2013 ไปครองเป็นคนแรก ได้แก่ น.ส.ญาดา เทพนม หรือ อ๋อ นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งคว้ารางวัล Miss Grand Rising Star ไปก่อนหน้านี้ ส่วนรองอันดับ 1 ตกเป็นของ น.ส.กณิการ์ ภูศรี หรือ เจมส์ หมายเลข 24 อายุ 23 ปี บัณฑิตสาวจากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

รองพื้นสำหรับผิวมัน เลือกอย่างไรให้เหมาะกับคนหน้ามัน


วิธีเลือกรองพื้นสำหรับผิวมัน เลือกอย่างไรให้เหมาะกับคนหน้ามัน


เรียบเรียงข้อมูลโดย ROCKY CHORN

          นอกเหนือจากครีมบำรุงผิวหลากหลายชนิดที่เราเลือกใช้เพื่อปกป้องบำรุงผิวหน้าให้สวยใสดูดีอยู่เป็นประจำทุกเช้าเย็นแล้ว รองพื้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลาย ๆ คนให้ความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสำหรับคนผิวมัน ยิ่งจำเป็นจะต้องมองหาผลิตภัณฑ์รองพื้นที่เหมาะกับผิวของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคนผิวมันมักมีรูขุมขนกว้างและมีผิวที่เคลือบไปด้วยน้ำมัน โดยเฉพาะในบริเวณจมูก แก้ม หน้าและปาก อันเกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ดังนั้น เราจึงควรเลือกรองพื้นที่เหมาะกับผิวหน้ามันของเราได้ ดังต่อไปนี้


รองพื้นสูตรน้ำหรือรองพื้นสูตรเจล 


เนื่องจากรองพื้น 2 ตัวนี้เนื้อรองพื้นมักจะมีความบางเบา สามารถปกปิดร่องรูขุมขนบนใบหน้าได้อย่างพอเหมาะ ทั้งยังทนน้ำ ทนเหงื่อได้ดี ไม่ทำให้รองพื้นหลุดลอกได้ง่ายในระหว่างวัน


รองพื้นแบบออยล์ฟรี

ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน น้ำหอมและแอลกอฮอล์ คนผิวมันควรหลีกเลี่ยงรองพื้นที่มีมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงและมีความชุ่มชื่น เพราะนอกจากจะทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้อุดตันในรูขุมขนจนอาจเกิดสิวได้ในที่สุด


รองพื้นที่มีส่วนผสมแร่ธาตุและวิตามินจากธรรมชาติ 

ยกตัวอย่าง เช่น น้ำแร่ ซิงค์ ออกไซด์และวิตามินซี ที่จะทำเข้ามาช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้เป็นยังดี อีกทั้งวิตามินซีก็จะช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใส เปล่งปลั่งไม่หม่นหมอง




ผมเปียหลายสไตล์ เทรนด์ฮิตตลอดกาล

ผมเปียหลายสไตล์ เทรนด์ฮิตตลอดกาล 





เรียบเรียงข้อมูลโดย ROCKY CHORN

ถือเป็นทรงผมยอดฮิตตลอดกาลเลยก็ว่าได้สำหรับทรงผมเปียที่สาว ๆ ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่ก็ต้องเคยผ่านทรงนี้กันมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งในปัจจุบันเทรนด์ผมเปียก็ยังคงมาแรงและมีการดัดแปลงแบบสวยเก๋ แปลกตามากยิ่งขึ้น ในวันนี้ ROCKY CHORN จึงได้หยิบเอาแบบผมเปียน่ารัก ๆ ของเหล่าดาราคนดังมาฝากกัน เผื่อสาว ๆ คนไหนอยากมีไอเดียในการตกแต่งทรงผมแบบเก๋ ๆ ก็อาจจะเลือกไว้ไปลองทำตามกันดูก็ได้


เบนซ์ พรชิตา 


เมย์ เฟืองอารมฌ์


นุ่น วรนุช


พิม พิมมาดา


แมท ภีรนีย์ 




จักจั่น อคัมย์สิริ  


ศรีริต้า เจนเซ่น   




ครีม เปรมสินี    




เจี๊ยบ พิจิตตรา  




เกรซ กาญจน์เกล้า 



ฟาง เฟย์ฟางแก้ว    




กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์

เจ้าของ blog ชื่นชอบแบบสุดท้านของ กุ๊บกิ๊บ เป็นพิเศษ น่ารักดี







วิธีการเลือกอายไลเนอร์ให้เหมาะกับตัวเอง


วิธีการเลือกอายไลเนอร์ให้เหมาะกับตัวเอง


ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ เริ่มด้วยการเรียนรู้และฝึกฝนแม้แต่ความสวยความงามเรายังต้องเรียนรู้ เพราะไม่มีใครเป็นเก่งมาตั้งแต่เกิด การกรีดอายไลเนอร์ก็เช่นกัน ต้องเรียนรู้วิธีการใช้ และทำเป็นเองโดยเรา
แต่การที่สาวๆจะเป็น หรือ เก่ง ในการกรีดอายไลเนอร์ให้สวย เนียนเสมอไม่มีสะดุดได้นั้น สิ่งแรกคือเราต้องรู้ว่า อายไลเนอร์มีกี่แบบ และแต่ละแบบนั้เหมาะกับใครบัางไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ผู้เริ่มต้นกรีด คนที่กรีดเป็น และ คนที่กรีดเป็นแบบมืออาชีพ อีกอย่างเราต้องรู้ว่าเราอยากได้อายไลเนอร์แบบไหนที่เราชอบสำหรับวันนี้ ร็อกกี้ มีเคล็ดลับ  ในการเลือกอายไลเนอร์ที่เหมาะกับตัวเอง มาฝากสาวๆทั้งหลาย สาวๆลองเลือกดูว่าเราเหมาะกับอายไลเนอร์ประเภทไหนกันบ้าง


1.อายไลเนอร์ แบบพู่กัน 

ลักษณะเหมือนปากกาเมจิก ใช้งานง่ายมากๆ เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ฝึกอยากจะวาดลายเส้นให้เรียวถูกใจ เส้นเรียวเล็ก เขียนง่าย แห้งเร็ว แล้วเส้นที่ออกมาค่อนข้างคมชัด แต่ถ้าต้องการความคมเข้ม ควรเขียนซ้ำหลายทีๆ ถึงจะได้แบบที่เราต้องการ



2.อายไลเนอร์ แบบมีกลิตเตอร์

เป็น ชนิดเดียวกับ อายไลเนอร์ชนิดน้ำ เพียงแต่ผสมกลิตเตอร์เพื่อเพิ่มประกายวิ้งๆให้กับดวงตาดูสดใส ในยามค่ำคืนเหมาะสำหรับสาวๆที่ต้องออกงานกลางคืน สาวๆควรมีติดไว้สักอันเพื่อการแต่งหน้ากลางคืนโดยเฉพาะ เพิ่มความน่าสนใจให้ดวงตา และเพิ่มความเซ็กซี่ได้เล็กๆ




3.อายไลเนอร์ แบบน้ำ หรือ ลิควิด 

อายไลเนอร์ประเภท นี้ เหมาะสำหรับมือโปร ในการเขียนอายไลเนอร์มากๆ เพราะปลายที่แหลมเล็ก เส้นที่ออกมาคมชัด หนาทึบ  สาวมือใหม่ก็ต้องฝึกฝน หัดบ่อยๆทำทุกวันก็จะเขียนได้แบบชิวๆเลย




4.อายไลเนอร์ เนื้อเจล  

เหมาะสำหรับ ผู้หญิงที่ต้องการตากลมโต เป็นพิเศษ วันไหนที่อยากแต่งตาแบบคมเข้ม ต้องเลือกอายไลเนอร์เนื้อเจล จะได้ดวงตากลมโต คมเข้ม โดดเด่นขึ้นไปอีกขั้น และยังติดทนยาวนานทั้งวันเลยที่เดียว แต่ข้อเสีย คือถ้าเนื้อเจลแห้งก็จะใช้ยาก เกลี่ยยากมาก เพราะฉะนั้นต้องปิดฝาดีๆ เนื้อเจลจะได้เนียนนุ่มใช้ได้นาน




5.แชโดว์ ไลเนอร์ไลน์  

ตัวนี้สามารถเป็นอายแชโดว์ได้ด้วย ใช้เกลี่ยแรเงารอบดวงตา เพื่อให้ดวงตากลมโต และคมเข้มมากขึ้น เนื้อเนียนนุ่ม ลื่น เขียนง่าย เขียนเพียงนิดเดียวสีก็ติดแล้ว แต่ด้วยเนื้อที่หนาและเข้มจึงควรล้างออกด้วย Eye Remover จะช่วยให้เช็ดออกง่ายสะอาดหมดจด สามารถแต่งดวงตาแบบสโมคกี้อายได้ด้วย





6. อายไลเนอร์ แบบดินสอ 

เหมาะ สำหรับสาวมือใหม่หัดเขียน เพราะเขียนง่ายและแก้ไขง่ายด้วย แต่เส้นจะไม่คมชัดเท่าไร และค่อนข้างเลอะง่าย เมื่อเวลาเหงื่อออก แถมต้องเหนื่อยออกแรงเหลาให้ปลายหัวแหลมอีกต่างหาก



วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว

วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว

ขอต่อจากอันที่แล้วเลยนะครับเรื่องเลือกสีรองพื้น ร็อกมีวิธีแนะนำเพื่อนๆ เลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว มากที่สุดมาฝากทุกคนทั้งหลายครับ เพราะมีคนถามเข้ามาหลายๆ ท่าน จากการสำรวจ ของ blog ต่างๆถามกันเข้ามากเหลือเกินว่า วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว นั้นมีเคล็ดลับอย่างไรบ้าง วันนี้ ร็อก ได้กฤษ์ดีจึงไปเสาะแสวงหาเคล็ดลับ ของแต่ละ บิ้วตี้บอกค์เกอร์มาฝาก วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว ก่อนอื่นต้องทำความเข้สใจกับแป้งแต่ละชนิดก่อนนะครับว่าตัวไหน option อะไรยังไง เอฟเฟคเหมาะกับเราไหม เชื่อว่า ข้อมูลที่ ร็อก นำมาฝากกันในวันนี้น่าจะช่วยให้วิธีการเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิวของเพื่อนๆ เป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักกับแป้งแต่ละชนิดกันก่อน

1.Loose Powder เหมาะกับผิวมันที่ไม่มีริ้วรอยให้ต้องปกปิด เพราะมันดีตรงที่บางเบาแต่ก็ไม่ติดทนนานหน้ามันปุ๊บก็หยิบแปรงมาปัดกันได้ใหม่

2.Two Way Powder เหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกได้ทั้งการปกปิดริ้วรอยและเพิ่มความเนีบยใสเพราะผสมรองพื้นในตัว พกพาสะดวกปกปิดริ้วรอย จุดบกพร่องได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและสีผิว ด้วยนะครับ จะได้นวลเนียนเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา

3.Pressed Powder คุณสมบัติเหมือน Loose Powder แต่ใช้สะดวกกว่าเพราะอัดแข็งอยู่ในตลับ เหมาะกับผิวค่อนข้างดีอยู่แล้วเพราะระดับความปกปิดน้อยและไม่ค่อยติดทนนาน

วิธีทดลองสีแป้งพัฟ

ให้ใช้พัฟทาที่ตรงคาง พอดี เลือกสีแป้งที่อ่อนกว่ารองพื้นที่เราได้เลือกเมื่อกี้ กว่า 1 เฉด วิธีนี้จะเป็นการป้องกันไม่ให้หน้าเปลี่ยนสี คิดง่ายๆ นะครับว่า หากรองพื้นเราสีพอดีแล้ว แป้งสีพอดีแป๊ะ มันจะทำให้ทุกสิ่งพอมันรวมกัน มันจะทำให้หน้าเรามีสีเข้มขึ้ืนทันที บางรายร็อกเจอะหน้าเป็นสีเทาไปเลยก็มีนะครับ วิธ๊เลือกแป้งที่ดี ร็อกว่าควรเลือกต่อจากรองพื้น เช่น สมุติรองพื้นคุณเบอร์ 2 แป้งคุณควรจะเป็นเบอร์ 1 ไม่ใช้รองพื้นก็เบอร์ 2 แป้ง ก็เบอร์ 2 อย่างที่บอกวิธีนี้จะทำให้สีแป้งดูกลมกลืนกันแล้วก็เป้นธรรมชาติยิ่งขึ้น
อ่อ ลืมบอกไป รองพื้นซื้อของยี่ห่ออะไร แป้งก็ควรที่จะซื้อยี่ห่อนั้นตามไปด้วยนะครับ เพราะว่าหากซื้อแยกแบรนด์แล้ว โอกาศผิดพลาดค่อนข้างมีเยอะ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่า ส่วนประกอบต่างๆ นั้นมันสามารถเข้ากันได้ หรือเปล่า นอกซะจากว่า คุณจะเป็นขั้นเทพจริงๆ ที่แบบว่า ใช้ฉันเจอะแล้ว สิ่งนี้แหละ มันสามารถใช้ร่วมกันได้ อันนั้นคุณก็ใช้ไปเถอะครับ




บทความหน้าจะพาไปเลือกอายไลเนอร์กัน

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เคล็ดลับ วิธีเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิว

เคล็ดลับ วิธีเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิว


สิ่งที่สำคัญก่อนการแต่งหน้านั่นก็ คือ การเลือกรองพื้นให้เนียนให้สวยเป๊ะนั้นเองครับ และการเลือกรองพื้นให้เข้ากันสีผิวนั้นจะช่วยทำให้การแต่งหน้าดูสวยมากยิ่งขึ้น วันนี้ ร็อก ก็เลยมีเคล็ดลับ วิธีเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิว จากการศึกษาจากหลายๆ กูรูผู้รู้แจ้ง จึงนำเอามาฝากสาวๆ และหนุ่มๆ กันครับ 

จะว่าไปแล้วรองพื้นมันก็ชั่งมี ต่างๆ นาๆ หลากหลายยี่ห่อ เยอะแยะมากมาย หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยให้ความสำคัญการเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิวเพราะเนื่องจาก ต้องการความขาวสว่างใสเข้าไว้ก่อนเป็นส่วนใหญ่ อีกประการ คือ มันมีเยอะจัด จนไม่รู้ว่าจะใช้ตัวไหน หรือบางครั้งอาจจะเลือกประมาณว่าเอาแค่ไกล้เคียงกับสีผิว ก็พอวะ การเลือกแบบนี้ ตัวร็อกเองอยากจะบอกว่า อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้เมื่อเราแต่งหน้า แต่ ร็อก ขอบอกเลยนะครับว่า วิธีเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิว ที ร็อก นำมาฝากกันในวันนี้ เป็น วิธีเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิว ได้เป๊ะมาก รับรองว่า วิธีเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิว นี้จะช่วยทำให้สาวๆ และหนุ่มๆ  สนุกกับการแต่งหน้ามากขึ้น และเชื่อว่าสาวๆ และหนุ่มๆ จะแต่งหน้าออกมาสวยเหมือนไปแต่งกับช่างแต่หน้ามืออาชีพเลยก็ว่าได้ครับ ถ้าพร้อมแล้วตาม ร็อก ไปเลือกรองพื้น ตามขั้นตอนวิธีเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิว ที่นำมาฝากกันเลยครับ


1. รู้จักสีผิวตัวเอง
ถ้าคุณใส่เครื่องประดับที่เป็นเงินแล้วดูดี คุณก็อาจมีสีผิวที่อยู่ในโทนเย็น แต่ถ้าคุณใส่เครื่องประดับที่เป็นทองแล้วดูดีกว่า สีผิวของคุณก็อาจอยู่ในโทนอบอุ่น การรู้โทนสีผิวของตัวเองจะช่วยให้เลือกเฉดสีที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น




2. เมินสีชมพู
อย่าเลือกครีมรองพื้นที่มีสีอมชมพู หรือโทนเย็น หรือโทนผสมเด็จขาด ยกเว้นว่าคุณจะมีผิวขาวมากๆ หรือเป็นผิวผสม อย่างคนอินโดนิเซีย,มาเลเซีย และ คนทางภาคใต้ของไทยบางส่วน เพราะกลุ่มนี้มักจะมีความพิเศษกว่า คนอื่น มักจะมีอนูเม็ดสีแดง อยู่นิดๆ แต่ ผิวของคนเอเชีย รวมไปถึง อาตี๋อาหมวย ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในโทนอบอุ่น ซึ้งมีอณูเม็ดสีเหลืองอยู่ชั้นใต้ผิวมากกว่าชาวตะวันตก หรือ ละตินอเมริกัน การเลือกเฉดสีอมเหลืองจะช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติได้มากกว่า


3. ทดสอบสีรองพื้น ระหว่าง ช่วง ใบหน้า ตรงขากรรไกร และ กราม
ด้วยการทาครีมรองพื้นเป็นแถบเล็กๆ เรียงกันไปตรงขากรรไกร จะช่วยให้คุณมองเห็นเฉดสีได้ชัดกว่าการลองทาบนแขน ข้อมือ หรือหลังมือ



4. ใช้แสงธรรมชาติ หรือ จากไฟที่มีแสงสีขาวเท่านั้น


หลังจากลองทาเสร็จแล้วก็หันหน้าเข้าหาหน้าต่างพร้อมกับส่องกระจกดู ถ้าแถบสีรองพื้นสีไหนเลือนหายไปกับสีผิวก็สีนั้นนั่นแหละที่เป็นสีที่เหมาะสำหรับคุณ

เห็นไหมครับว่ามันง่ายแค่ไหน เอาละ บทความหน้าร็อกจะพาไปดู วิธีเลือกแป้งกัน